Site icon ohhappybear

Sa Kaeo Trip, Prasat Hin Sadok Kok Thom and Delicious Vietnamese Food | เที่ยวปราสาทหิน กินอาหารเวียดนามที่สระแก้ว

 


(TH/EN) Here’s a trait that many travellers seem to catch when making plans for their next journeys: the attempt to connect the dots. Recently, for the both of us, we headed east and northeast to complete the journey through the lower Isan we started years earlier at Prasat Hin Phimai in Korat or Nakhon Ratchasima.

สระแก้ว พอสังเขป – ? ขับรถไปเที่ยวอรัญประเทศมาค่า…มีสองอย่างเลยค่ะที่อยากทำที่นั่น หนึ่ง กินอาหารเวียดนามให้พุงกางๆ กับสอง ไปชมปราสาทสด๊กก๊อกธม ปราสาทหินเก่าแก่อายุนับพันปี ที่อยู่ห่างจากเขตประเทศกัมพูชามาเพียง 1 กม. เท่านั้น

จากประสบการณ์ที่เคยไปเที่ยวปราสาทหินกันมา จำได้ว่าทุกครั้งที่ไป อากาศจะร้อนมากๆ จนลมจะใส่ คราวนี้เลยจัดแผนไปเดือนมกราคม ตอนที่อากาศยังเย็นสบาย ฟ้าใสๆ หน้าหนาวถ่ายรูปสวย และหากไปตอนเช้าตรู่ แดดยังไม่จัดมาก ฟ้าเป็นสีฟ้าจัด สวยงามมากมายค่ะ

Above: The entrance to Prasat Sadok Kok Thom is linked by long, shady and very beautiful causeways.

Thailand’s east, from the province of Sa Kaeo all the way up to the northeast: Nakhon Ratchasima, Buriram, Surin, etc., is riddled with ancient stone castles, or Prasat Hin. These ancient treasures date back as far as the year 2463 B.E., making many of our historic monuments and temples seem modern in comparison. Wat Arun, or the Temple of Dawn, for example, was built in the Ayutthaya Era, which began almost 300 years later, with its current structure the result of a major renovation that wasn’t completed until the year 1851.

ปราสาทสด๊กก๊อกธมเป็นชื่อภาษาเขมร แปลว่า “ปราสาทที่อยู่ท่ามกลางป่ากกขนาดใหญ่” เมื่อเทียบกับปราสาทหินที่อื่นๆ ที่เคยไปมา (เช่นปราสาทหินพิมาย หรือปราสาทหินเขาพนมรุ้ง) ที่นี่จะมีขนาดกระทัดรัดกว่า แต่มีองค์ประกอบทุกอย่างครบถ้วนทำให้น่ารักมาก มีบาราย (สระน้ำศักดิ์สิทธิ์) ด้านหน้า ฉนวนทางเดินที่เรียงรายไปด้วยเสานางเรียง ตัวปราสาทแบ่งออกเป็นสองส่วน ชั้นนอกมีสระบัวล้อมรอบ ชั้นในซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีปราสาทประธานประทับศิวลึงค์ ล้อมรอบด้วยซุ้มประตูและระเบียงคดอีกที บรรยากาศตรงนี้ร่มรื่นสบาย เพราะรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่เยอะมาก

Above: The inner sanctuary with the main Prasat that shelters a linga, a symbol of Shiva.

Aranyaprathet in Sa Kaeo is our first stop this time, and we have only two missions. First: Eat as much of their local Vietnamese food as possible. Second: Visit this Prasat Sadok Kok Thom in Amphur Khok Sung, about 35 kilometers north of Aranyaprathet, where major Thai-Cambodia border controls operate. Both missions were happily accomplished, and we were particularly impressed with Prasat Hin Sadok Kok Thom and the whole trip. We think it is really worth the journey.

เดินถ่ายรูปกันเพลินๆ เพราะไปแต่เช้า ยังไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกรมศิลปากรก็เดินเข้ามาทักค่ะ คุณคนนี้แจ้งว่า เป็นคนท้องถิ่นยังไม่พอ เค้ายังเป็นเขยเขมรอีกด้วย จะบอกว่า คนย่านนี้พูดไทยชัด เขมรแจ๋ว หน้าตาไม่ไกลกัน แยกชาติลำบากนะคะ แถมคนทั้งสองประเทศ ยังมีการอยู่กันแบบข้ามพรมแดนไปมาต่อเนื่องเป็นเรื่องธรรมดา สระแก้วเป็นพื้นที่ที่ชาวเขมรเข้ามาทำงานรายวันกันมาก มาเช้าเย็นกลับ โดยต้องถือเอกสารเบิกตัวเข้าไทย ถึงจะมาได้

Above: ‘Sirindhorn’ – the inscription of Princess Maha Chakri Sirindhorn, Princess Royal, and Princess Debaratana Rajasuda who made visits here first before the restoration back in 1991, and second at the completion in 2010.

The best time to visit any Prasat Hin in Thailand’s east and northeast is the earliest in the day you can manage. We were there as the first visitors (8 am) when the sunlight was still soft with the cool breezes of January aplenty. Found in heaps of ruins back in 1992, it took the Fine Arts Department 20 years to reconstruct this temple, using anastylosis techniques that employ, as much as possible, the original elements of the ruins in the reconstructions.

ด้วยความเป็นพื้นที่ชายแดนที่เคยเต็มไปด้วยสงคราม (ล้างเผ่าพันธ์โดยเขมรแดง ต่อด้วยเวียดนามกับเขมร) ปราสาทสด๊กก๊อกธม ไม่ได้สวยงามแบบนี้มาตั้งแต่แรก เมื่อที่มีการค้นพบนั้น สภาพปราสาทถล่มลงมาหมดไม่มีเหลือ ก้อนหินทั้งหมดกองเป็นภูเขา รอบด้านเป็นป่ารกเต็มไปด้วยกับระเบิด แต่การบูรณะก็เริ่มขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยใช้เวลาถึง 20 ปีต่อมา ค่อยๆ ประกอบร่างปราสาทขึ้นมาใหม่ วิธีที่ใช้คือ อนัสติโลซิส (Anastylosis) คือค่อยๆ แกะรอยเก่า ใช้หินของเดิมประกอบร่าง แล้วเสริมด้วยหินใหม่เฉพาะส่วนที่ขาดหายไป

Above: The recently repatriated lintel of Prasat Khao Lon in Ta Phraya District.

Prasat Hin Sadok Kok Thom is small in comparison to other Prasat Hins in the area. But it has all the elements and ornamental structures that you’d expect from an ancient temple. This place has two sanctuaries: the outer and the inner, both linked by long, laterite-paved causeways. And the place is shady, with loads of leafy trees, critters, and birds. We took our time walking through their surroundings as well. Very peaceful and beautiful.

โดยเมื่อได้ทำการอนุรักษ์เสร็จสมบูรณ์ก็มีการปรับปรุงภูมิทัศน์จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกรวมทั้งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวปราสาทสด๊กก๊อกธมและปราสาทหินอื่นๆในบริเวณที่มีความเกี่ยวข้องเพื่อเผยแพร่เป็นความรู้ที่สนุกมากสำหรับคนชอบเที่ยวไว้ในศูนย์บริการข้อมูลด้านหน้า

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทหินสด๊กก๊อกธม >> http://bit.ly/3wHNWcC

Above: The Vietnamese People Association in Aranyaprathet on the street where there’re quite a number of Vietnamese restaurants.

On our way back, we stopped by their information centre, where the stories of the restoration as well as the timeline of this Prasat Hin and more are presented along with many artifacts, among them the recently repatriated lintel of Prasat Khao Lon in Ta Phraya District, not too far from here.

Sa Kaeo is where Vietnamese foods are a delicious staple. The Association of Vietnamese People in Aranyaprathet is located on the main street, where we had our meals. We ate at two restaurants and enjoyed them both: Amsun (trendy, beautiful dishes, but dark and with no parking) and Yai Taam (on the same road but more local in their presentations, heartier in portions, and with parking space inside their premises). We stayed at the Velo Hotel which is decent and quiet, although a bit dusty. 😀

For more information about Prasat Hin Sadok Kok Thom: http://bit.ly/3wHNWcC

? ขอจบด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยดังนี้ค่ะ

– ปราสาทสด๊กก๊อกธม เป็นหนึ่งในปราสาทบนเส้นทางราชมรรคา ที่มีศูนย์กลางที่เมืองพระนคร หรืออังกอร์วัดในกัมพูชา ผ่านปราสาทสด๊กก๊อกธมไปยังปราสาทพิมาย ทำให้ทั้งสองที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ขยายวัฒนธรรมเขมรสู่บริเวณโดยรอบ

– ศิลาจารึกที่พบในปราสาทหินโบราณ คือวิธีที่นักโบราณคดีใช้ในการศึกษาอายุของปราสาทหินแต่ละที่ อิแมจิ้นว่าหลายพันปีเมื่อก่อน ยังไม่มีสีทาผนัง ไม่มีการจารึกจิตรกรรมฝาผนัง วิธีจารึกแบบโบราณก็คือการจารึกบนศิลานั่นเอง ปราสาทสด๊กก๊อกธมน่าจะสร้างในปีพุทธศักราช 1595 (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 1595 = อายุปราสาทราวๆ 971 ปี)

– เมื่อสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่ปราสาทสด๊กก๊อกธมอีกครั้งเมื่อการบูรณะใกล้จะเสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553 พระองค์ท่านได้พระราชทานลายพระหัตถ์ลงในหลักศิลา ซึ่งมีการจารึกเป็นหลักฐานอันเป็นมงคลไว้ในตัวปราสาทชั้นในด้วย

– คนที่สนใจเรื่องราวของปราสาทหินที่มีมากมายในพื้นที่ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือของไทย จะต้องเดินทางมาค่อยๆ ไล่ชมแต่ละที่ เพราะมีเยอะมาก และแต่ละที่ก็ทำให้วัดเก่าแก่มากมายที่เรารู้จักกลายเป็นของโมเดิร์นไปเลย

– มาถึงปราสาทสด๊กก๊อกธม ไม่ควรพลาดเดินชม “ศูนย์บริการข้อมูล” ด้านหน้าทางเข้า มีข้อมูลปราสาทหินทั้งหมดไล่เรียงให้เห็นภาพ และยังเป็นที่แสดง “ทับหลังจำหลักหน้าเทวดาประทับเหนือหน้ากาล” ที่เคยติดอยู่เหนือประตูของปราสาทเขาโล้น อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ที่ได้ถูกตามกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2564

Above: A set of Vietnamese dishes at Am Sun

? ในส่วนของอาหารเวียดนามนั้น ทั้งจังหวัดสระแก้วมีให้เลือกมากมาย เล็งไปสองร้านในอรัญประเทศ และชอบมากมาย อร่อยทั้งสองร้านที่ไปกินเลยค่ะ

Above: The two dishes above are from Yai Taam nearby. Delicious.

Above: An evening at their public park Kanchanapisek Rama IX with a pop-up night market with low chairs not unlike ones popular in the neighbouring countries.

Above: A family activity: children off driving an electric toy car at the expense of their parents at THB50 for 15 minutes at the public park.

Above: A very cool water tank near Aranyaprathet rail station.


© OHHAPPYBEAR


 

Exit mobile version