Padella เรียกตนเองว่า ‘Pasta Bar’ เป็นร้านที่ Tim Siadatan และ Jordan Frieda เชฟพาร์ทเนอร์และนักธุรกิจด้านอาหารตั้งขึ้นมา จากไอเดียการทำพาสต้าสดๆ ที่เห็นมาจากอิตาลี ร้านนี้มีเมนูสั้นๆ เปลี่ยนไปตามฤดูกาล มีพาสต้าให้เลือก 7-8 อย่างต่อวัน และ antipasti อีกไม่มาก มีขนม มีไวน์ มีกาแฟ ทุกอย่างจบมื้อครบที่นี่ มีบาร์ให้นั่งติดหน้าต่าง ชมวิวด้านนอก หรือบาร์นั่งดูกิจกรรมในครัว ซึ่งเราสองคนได้นั่งตรงนั้นนะคะ เลยได้วิวในครัวเปิดของร้านมาฝากค่ะ
เราสั่ง antipasti มาสองอย่าง – Marinated spinach with chilli, garlic and anchovy (£5.5) แล้วก็ชีส Burrata with Puglian olive oil(£5) อร่อยมากมายทุกอย่าง คุ้มค่ากับการรอจริงๆ ชีสก้อนน้อยๆ โชว์เคสความครีมมี่ด้วยน้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย ส่วนผักโขมนี่คือรสจัดเลย เปรี้ยวเค็มเผ็ด ผักเหนียวไปหน่อย เป็นผักโขมลวกน้ำ (แช่เย็น ขยำ) และนำมาปรุงกับพริก กระเทียม น้ำมันมะกอก กินจานนี้แล้วได้ไอเดียว่าเราสามารถทำเองได้เลยวันที่อยากกินผักแต่เบื่อความสลัดแบบธรรมดา
ด้านล่างนี่เป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้ ปรกติจะต้องเป็นซอสเนื้อตุ๋น 8 ชั่วโมง (eight-hour beeg shin ragu) แต่วันที่เราไปไม่มีนะคะ เลยเป็นซอส Italian fennel sausage ragu ผัดกับพาสต้าเส้นแบนใหญ่ Pappardelli แทน อร่อยมากมายจริงๆ จานนี้ £8
ส่วนดิฉันสั่งพาสต้าเส้นเล็ก หน้าตาเหมือนกับลิงกวินี่เล็กๆ แต่แบบนี้เค้าเรียกว่า Taglierini ผัดกับเนื้อปูจาก Dorset พริก มะนาว อร่อยมากมายๆๆๆๆ จานนี้ £12
Padella แปลว่า pan ในภาษาอิตาลี นั่งเคาน์เตอร์บาร์ที่ครัว เห็นเลยว่ากระทะเค้าเยอะมาก พาสต้าทุกจานผัดสดทุกจาน ใช้กระทะใหม่ทุกจาน เชฟคนผัดก็จะผัดๆๆๆๆๆ เสร็จแล้วเทพาสต้าลงจาน เชฟอีกคนก็จะเอาชีสก้อนโต (พาร์เมอร์ซาน) มาขูดๆๆๆๆ กับ Microplane อันกว้าง เป็นชีสฝอยๆ โรยมาฟูๆ น่ากินมาก หน้าอ่างล่างจาน ก็จะมีคนล้างกระทะอยู่คนนึง ที่ยืนล้างกระทะต่อเนื่องตลอดเวลา เพราะกระทะใช้เยอะมากๆๆ ส่วนเชฟคนที่ขูดชีสนั้น ระหว่างรอ ก็เอาถาด กล่องที่เก็บเครื่องปรุงไว้ตามตู้เย็นที่อยู่ใต้บาร์นั้นมาเตรียมอาหารชุดต่อไป เช่น เอาฟักทองย่างที่ย่างแล้วในถาดมาขูดเอาแต่เนื้อ เพื่อเอาไปทำราวิโอลี่ อาหารดังอีกจานของที่นี่
Padella ไม่รับจอง มาถึงก็เชิญต่อคิว แล้วก็จะไม่จัดโต๊ะให้หากกลุ่มยังมาไม่ครบคน ดังนั้นจึงไม่สามารถส่งใครที่ไร้กิจกรรมที่สุดไปนั่งกั๊กโต๊ะรอได้ แต่อ่านในเว็ปเค้า มีบอกไส้ว่าหากว่าไปตอนเย็น ซึ่งอากาศน่าจะหนาว การยืนนอกร้านอาจโหดเกินไป เค้าเลยใช้วิธี text ไปบอกได้เมื่อโต๊ะเรียบร้อยค่ะ
1 Comment